วิธีขายของออนไลน์ให้ปังผ่านการวางแผนการเงิน

3 วิธี (ลับ) ขายของออนไลน์ให้ปัง ปรับการเงินในธุรกิจให้ทำกำไร!

เคยไหม? ขายของดีจนแทบไม่ได้พัก แต่พอกลับมาคำนวณทุกอย่างแล้วพบว่า กำไรที่ได้มาไม่มากเหมือนของที่ขายไป หากธุรกิจของใครกำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ ลองมาทำความรู้จัก 3 วิธีขายของออนไลน์ให้ปังที่นำมาฝากในวันนี้ เพื่อปรับสมดุลการเงินของธุรกิจให้ลงตัว เป็นระบบ และสามารถลดต้นทุนเพื่อกลายมาเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นกัน หากใครอยากเหนื่อยน้อยกว่านี้และมีกำไรเพิ่มขึ้นจริง มาดูทั้ง 3 วิธีไปพร้อมกันเลย!

วิธีที่ 1: วางแผนการเงินตั้งแต่แรก มีชัยไปกว่าครึ่ง!

แม้สินค้าที่เลือกมาทำธุรกิจจะมีคุณภาพที่ดีและราคาที่โดนใจมากแค่ไหน แต่การสร้างยอดขายที่มีประสิทธิภาพจะขาดแผนการเงินที่ครอบคลุมไม่ได้เช่นกัน สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าซึ่งสามารถกุมหัวใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้แล้ว หากรู้สึกว่ากำไรที่ได้มายังน้อยผิดกับปริมาณของที่ขายได้ ขอแนะนำให้ลองกลับมาพิจารณาการเงินในธุรกิจ 2 ด้าน ประกอบไปด้วย

  1. ต้นทุนธุรกิจ

นอกจากต้นทุนสินค้าจากแหล่งผลิตแล้ว อย่าลืมพิจารณาถึงต้นทุนแฝงในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าพัสดุ ค่าจัดส่ง ค่าทำการตลาด หรือหากธุรกิจของใครผลิตสินค้าเองก็อย่าลืมพิจารณาต้นทุนการผลิตทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงค่าแรง จากนั้นจึงค่อย ๆ ไล่ดูว่า มีต้นทุนส่วนไหนที่สามารถบริหารจัดการ หรือปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

  1. บัญชีทั้งหมดที่ใช้งาน

วิธีขายของออนไลน์ให้ปังส่วนใหญ่มักโฟกัสอยู่ที่แนวทางการทำการตลาด แต่น้อยคนนักจะกลับมาพิจารณาถึงเส้นทางการเงินทั้งหมดของธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาจพลาดโดยการนำบัญชีส่วนตัวมารวมเข้ากับบัญชีธุรกิจ ทำให้คุมค่าใช้จ่ายได้ยากจนเห็นผลกำไรได้น้อยกว่าที่ควร 

ดังนั้น เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ขอแนะนำให้แยกบัญชีธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัวทั้งหมด และในบัญชีธุรกิจก็ควรจัดสรรเป็นบัญชีที่รับเงินจากลูกค้าและบัญชีที่เอาไว้ใช้จ่ายเป็นต้นทุนธุรกิจทั้งหมด เพื่อเป็นการบริหารค่าใช้จ่าย และทำให้เห็นผลกำไรได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง

วิธีที่ 2: อย่าจัดโปรโมชันหากยังไม่ได้คำนวณค่าใช้จ่าย

การจัดโปรโมชันพิเศษในช่วงเวลาต่าง ๆ อาจเรียกลูกค้าเพื่อสร้างยอดขายให้แก่ธุรกิจได้ แต่ในหลาย ๆ ครั้ง การจัดส่วนลดพิเศษมากมายนี้ ก็อาจทำให้หลายธุรกิจได้กำไรน้อยกว่าที่ควร เนื่องจากยังไม่ได้คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนที่จะจัดโปรโมชันนั่นเอง

ดังนั้น ก่อนที่จะจัดโปรโมชัน ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาในช่วงเวลาพิเศษของเดือน การรวมค่าจัดส่งเข้ากับราคาสินค้า ตลอดจนของแถมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการตลาด ขอแนะนำให้ลองกลับมาคำนวณต้นทุนทุกด้านอย่างรอบคอบก่อนทุกครั้ง จากนั้นจึงวางแผนโปรโมตเพื่อให้ธุรกิจได้กำไรเท่าเดิม แต่ยังสามารถจัดโปรโมชันพิเศษได้

ที่สำคัญ! ธุรกิจที่ขายสินค้าใกล้เคียงกัน ยังไม่ควรตัดราคาขายกับเจ้าอื่น ๆ ในท้องตลาด เพราะนอกจากจะเป็นวิธีการขายของออนไลน์ให้ปังแบบไม่ยั่งยืนแล้ว การตัดราคาขายยังเสี่ยงต่อการโดนธุรกิจที่มีเงินทุนสูงกว่าตัดราคาต่อได้ ทำให้โอกาสสร้างยอดขายก็จะยิ่งน้อยลงกว่าเดิม อีกทั้งลูกค้าอาจหมดความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า เนื่องจากพบเจอราคาขายที่ถูกลงเรื่อย ๆ นั่นเอง

วางแผนภาษีธุรกิจออนไลน์ วิธีขายของออนไลน์ให้ปังที่น้อยคนรู้

วิธีที่ 3: ปังไม่ปังอยู่ที่นี่! ภาษีขายของออนไลน์สำคัญกว่าที่คิด

บนโลกนี้มี 4 สิ่งที่ชีวิตของคนเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยความตาย การเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และภาษี ซึ่งสำหรับธุรกิจออนไลน์เอง ภาษีก็เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจเช่นกัน ตามปกติแล้ว ภาษีขายของออนไลน์จะมีด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ 

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับธุรกิจออนไลน์ทั่วไป
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท 

อย่างไรก็ดี ภาษีทั้ง 2 ลักษณะนี้จะมีการเสียภาษีเป็นลักษณะขั้นบันได โดยเงินได้ที่นำมาคิดจะต้องรวมรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขายหน้าร้าน และการขายออนไลน์ที่มีการคิดภาษีจากเงินรับโอน หรือ e-Payment ซึ่งจะไม่รวมการโอนเงินออก และจะมีการหักภาษีธุรกิจออนไลน์ที่สามารถทำได้ 3 ทาง คือ 

  • หักค่าใช้จ่ายตามอัตรา 60% ของเงินได้
  • หักตามค่าใช้จ่ายจริง
  • หักแบบเหมา

โดยแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีแตกต่างกันด้วย ซึ่งเจ้าของธุรกิจสามารถรับคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการชำระภาษีและวางแผนการเงิน หรือปรึกษากรมสรรพากรเพื่อวางแผนทำภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ดี เจ้าของธุรกิจสามารถวางแผนการเงินเพื่อรองรับการเสียภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ก่อนถึงรอบภาษี ตลอดจนยังสามารถพิจารณาการลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการลดต้นทุนในธุรกิจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีขายของออนไลน์ให้ปังที่หลายคนยังมองข้ามอยู่

จบลงไปแล้วกับ 3 วิธี (ลับ) ขายของออนไลน์ให้ปังผ่านการบริหารจัดการเงินในธุรกิจ หวังว่าทั้ง 3 วิธีที่นำมาฝากนี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจกลับไปพิจารณาและวางแผนการเงินในธุรกิจตัวเองให้มีประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรที่ต้องการได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี วิธีขายของออนไลน์ให้ปังยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ซึ่งทุกคนสามารถติดตามเทคนิคการขายของออนไลน์ให้ปังกับผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพในการเปลี่ยนยอดพังให้ปังแบบถล่มทลายได้ที่ The iCon Academy