เมื่อพูดถึง Steve Jobs คุณจะนึกถึงแอปเปิล เมื่อพูดถึงพิมรี่พาย คุณจะคิดถึงการขายทุกอย่าง ถ้าคุณคิดว่า Personal Branding ไม่มีผลอะไรต่อยอดขาย คุณลองอ่านบทความนี้ดู แล้วจะรู้ว่า Personal Branding คืออะไร ทำไมลูกค้าถึงเลือกบางแบรนด์ทั้งที่เทียบกันแล้วราคาแพงกว่า แถมคุณภาพก็ไม่ได้ดีหรือแย่กว่ากันสักเท่าไรเลย
Personal Branding คืออะไร
แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับคำว่า Personal Branding แต่เชื่อเถอะว่า เราต้องเคยเห็นหรือได้ยินหลักการตลาดนี้อยู่ไม่มากหรือน้อย
การทำ Personal Branding คือ การสร้างภาพลักษณ์ของบุคคลให้บุคคลอื่นจดจำ และเชื่อมโยงไปกับสินค้า ซึ่งอาจจะเป็นไปโดยธรรมชาติของบุคคลนั้น หรือว่าเป็นไปตามแผนการตลาดที่วางเอาไว้ แต่ผลลัพธ์ก็คือ ผู้คนจดจำบุคลิกและลักษณะของบุคคลดังกล่าว ซึ่งช่วยทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่ง
ตัวอย่างของ Personal Branding ที่ประสบความสำเร็จ เช่น Steve Jobs, มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก, อีลอน มัสก์, พิมรี่ พาย
ความสำคัญของการสร้าง Personal Branding
หลายคนอาจจะสงสัยว่า แค่การขายสินค้าที่มีคุณภาพไม่พอหรือ ทำไมต้องสร้าง Personal ฺBranding หรือต้องไปเรียนหลักสูตร Personal Branding ด้วย เรามีเหตุผลสำคัญมาฝากกัน
- สร้าง Brand Loyalty ได้ดียิ่งขึ้น เพราะความรัก ความชอบในตัวบุคคลนั้นค่อนข้างยั่งยืนกว่าตัวสินค้า ซึ่งหากว่าลูกค้ารักและจดจำเราได้แล้ว มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า เชื่อเรา และปกป้องเราและแบรนด์ของเรา
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ เราคงจำกันได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่พิมรี่พายขายกล่องสุ่มเครื่องสำอางราคา 100,000 บาท ที่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย แต่คนก็เชื่อและยอมซื้อ ซึ่งขายได้ถึง 100 ล้านบาทภายใน 10 นาที นี่คือตัวอย่างของ Personal Branding ที่ทรงพลัง
- ต่อยอดธุรกิจไปได้อีกมาก หากว่าคนมั่นใจในตัวบุคคลแล้ว ไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการอะไร จะเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน หรือแตกต่างกัน ก็สามารถขายได้เช่นเดียวกัน
เทคนิคการสร้าง Personal Brand Business
ในคอร์สสอน Personal Branding มักจะบอกเทคนิคการสร้าง Personal Brand Business เพื่อเป็นแนวทางให้เราฝึกฝน ดังต่อไปนี้
- หาจุดเด่นและ Passion ของเราให้เจอ
ข้อหนึ่งที่เราต้องรู้เกี่ยวกับการสร้าง Personal Branding คือ การหาตัวตนของเราที่เป็นจุดเด่นที่คนชอบ แล้วไปผสานกับ Passion ของเราให้เจอ จากนั้นชูให้คนเห็นเด่นชัดยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการจดจำและความประทับใจ
- รู้จักกลุ่มเป้าหมาย และพูดในสิ่งที่คนอยากฟัง
ข้อผิดพลาดหนึ่งของเจ้าของแบรนด์หรือนักการตลาดคือ พูดในสิ่งที่เราอยากพูด มากกว่าพูดในสิ่งที่คนอยากจะฟัง ดังนั้น เราควรผสานสองสิ่งไปไว้ด้วยกัน โดยเราต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของเรา ความชอบ และสิ่งที่คนกลุ่มนี้อยากฟัง แล้วแทรกเรื่องราวของเราไปแบบเนียน ๆ
- สร้างตัวตนให้แตกต่างจากคนอื่น
อะไรที่ทำให้เพจดัง ๆ แตกต่างจากเพจอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เพจแมวก็มีหัวใจ เป็นเพจแมวที่ดูแลโดยคุณหมอรักษาคนที่รักแมว มีการค้นคว้าหาข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน มีรูปที่เข้าใจง่าย ซึ่งแตกต่างจากเพจแมวทั่วไปที่เน้นขายความน่ารัก ดังนั้น เราจะต้องสำรวจว่าในตลาดกลุ่มเดียวกันคนทั่วไปมีลักษณะเป็นอย่างไร และเราจะชูอะไรเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคนอื่น
- เลือกช่องทางการสื่อสาร
ปัจจุบันเรามี Social Media และช่องทางการสื่อสารมากมายในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่จุดสำคัญคือ เราจะต้องเลือกให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพราะถ้ากลุ่มเป้าหมายเราเป็นเด็ก ๆ ที่ชอบเล่น TikTok แต่เราไปใช้ Facebook ก็อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้
- รู้จักพูดเพื่อขายตัวเอง
การพูดเพื่อขายตัวเองต้องเป็นการพูดอย่างมีศิลปะ ไม่ใช่การยกยอปอปั้น หรือบอกว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแบบลอย ๆ ตัวอย่างเช่น หากว่าเราวางตัวเองไว้ว่าเป็นคนดูแลสุขภาพ พลิกชีวิตจากคนที่มีน้ำหนักเป็นร้อย ลดน้ำหนักจนประสบความสำเร็จ เราก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวของเราได้ว่าเราทำอย่างไร มีการค้นคว้าอย่างไร เพื่อตอกย้ำตัวตนของเรานั่นเอง
คุณเบเบ้ คือ ตัวอย่าง Personal Branding ในการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก โดยมีการทำคลิปสอนออกกำลังกาย และมีหุ่นลีนสวยงาม สร้างจุดขายที่เป็นคนมีวินัยและออกกำลังกายที่ได้ผลดีและประสบความสำเร็จ จนปัจจุบันสามารถขายอุปกรณ์ออกกำลังกาย ทำกำไรได้มากมาย
หากว่าใครอ่านเรื่องการทำ Personal Branding คืออะไรแล้ว ยังคิดภาพตามไม่ออก หรืออยากรู้ลึก ๆ และปฏิบัติแบบได้ผลจริง The iCon Academy มีคอร์สสร้าง Personal Branding เข้าใจง่าย ปรับใช้ได้กับทุกคน สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำเรื่องคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02 105 6789