แจกเทคนิคการขายสินค้าระบบ Dropship โอกาสของนักขายมือใหม่!

หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าเริ่มต้นขายของออนไลน์สักทีก็คือ ‘ต้นทุน’ เมื่อไม่มีต้นทุนในการสต็อกสินค้า ก็ทำให้ไม่กล้าที่จะเริ่มขาย แต่รู้ไหมว่าปัจจุบันนี้ยังมีรูปแบบการทำธุรกิจที่เรียกว่า Dropship ซึ่งเป็นการขายสินค้าแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า ทำให้ไม่ว่าใครก็มีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ได้ง่าย ๆ ขอชวนผู้ที่อยากเริ่มต้นขายของออนไลน์มาทำความรู้จักกับ Dropship พร้อมเทคนิคการขายสินค้าแบบ Dropship ให้ปัง!

การขายของด้วยระบบ Dropship คืออะไร

ระบบ Dropship คือ ระบบขายของที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายสินค้าได้โดยที่ไม่ต้องสต็อกสินค้าไว้ที่ตัวเอง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ‘ตัวแทนจำหน่าย’ นั่นเอง ซึ่งการขายในรูปแบบนี้ มีจุดเด่นตรงที่ พ่อค้าแม่ค้าไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนในการสต็อกของ เพียงแค่นำรูปถ่ายและข้อมูลที่ได้มาจาก Supplier โพสต์โปรโมตลงใน Social Media หรือช่องทางต่าง ๆ โดยบวกกำไรเพิ่มเข้าไป จากนั้น Supplier หรือเจ้าของร้าน ก็จะส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าของเรา เรียกได้ว่าเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้แม้จะไม่มีต้นทุน และยังไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องการดูแลสต็อกสินค้า หรือการจัดส่งอีกด้วย

การขายของแบบ Dropship มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

ข้อดีของการขายของแบบ Dropship

• ลงทุนน้อย

ข้อดีที่โดดเด่นที่สุดของการขายของแบบ Dropship คือการที่พ่อค้าแม่ค้าไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุน และไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าไว้ที่ตัวเอง ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานที่มองหาอาชีพเสริม หรือวัยเรียนที่ฝันอยากมีรายได้เป็นของตัวเอง

• ไม่ต้องคอยวุ่นวายกับสต็อก

เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า ปัญหาเรื่องการจัดการสินค้าก็จะหมดไป แค่คอยหมั่นเช็กสต็อกกับ Supplier หรือเจ้าของร้านรายใหญ่ให้ชัวร์ และหมั่นโปรโมตร้านอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถทำกำไรได้อย่างล้นหลาม!

• หมดปัญหาเรื่องการจัดส่ง

นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินไปกับการลงทุนแล้ว การขายของแบบ Dropship ยังสะดวกตรงที่พ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องเหนื่อยกับการจัดส่งสินค้าด้วยตัวเอง เพียงแค่ส่งออร์เดอร์ให้เรียบร้อย และปล่อยให้ Supplier จัดการให้เราได้เลย

• ขายได้ทุกที่ ทุกเวลา

เมื่อไม่ต้องมีต้นทุน และไม่ต้องวุ่นวายไปกับการดูแลสต็อกสินค้า และไม่ต้องคอยหาเวลาวิ่งไปส่งของ พ่อค้าแม่ค้าก็สามารถโฟกัสกับการขายได้ทุกที่ ทุกเวลา แค่มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ได้ทันที!

ข้อเสียของการขายของแบบ Dropship

• ไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้

เพราะการขายของแบบ Dropship นั้น เป็นการที่เรานำสินค้าจาก Supplier หรือร้านใหญ่อื่น ๆ มาขาย ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าจึงไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากสินค้าเกิดปัญหาก็อาจทำให้ร้านของเราเสียความน่าเชื่อถือได้เลยทีเดียว

• คู่แข่งค่อนข้างสูง

ด้วยความที่ Dropship คือระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเริ่มขายสินค้าได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีต้นทุน จึงเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งสูง หากสินค้าไหนที่ได้รับความนิยมมาก ก็จะยิ่งมีคนสนใจขายมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถ้า Supplier บริหารจัดการไม่ดี ก็อาจทำให้สินค้าล้นตลาดและตามมาด้วยปัญหาสินค้าค้างสต็อกในที่สุด

เทคนิคการขายสินค้าแบบ Dropship ให้ประสบความสำเร็จ

• ใส่ใจกับการเลือกสินค้า

เมื่อเรารู้แล้วว่า จุดด้อยของ Dropship คือการที่เราไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ ดังนั้น เราสามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ เลือกขายกับ Supplier ที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญก็คือ การศึกษาเทรนด์ความนิยมของสินค้าในช่วงนั้น ๆ เพื่อเลือกสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และช่วยให้เราขายได้ยาวนาน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าสินค้าเหล่านั้นจะหมดความนิยมไปเสียก่อน

• ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร

ถึงแม้ว่าเราจะมีสินค้าที่ดีอยู่ในมือ แต่หากขาดการโปรโมตที่ดี ก็ไม่อาจช่วยให้เราทำกำไรจากการขายได้ ดังนั้น เทคนิคการขายสินค้าแบบ Dropship ที่พ่อค้าแม่ค้าไม่ควรมองข้ามก็คือ การหมั่นโปรโมตร้านบน Social Media ด้วยวิธีนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงการสื่อสารพูดคุยกับลูกค้าอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ เพื่อปิดการขายให้ไวที่สุดก่อนที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจ

• ตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสม

อีกหนึ่งปัญหาของระบบ Dropship คือการที่มีพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวัน และทุกคนก็เลือกที่จะขายสินค้าแบบเดียวกันไปหมด แล้วจะทำอย่างไรให้ร้านของเรามีโอกาสขายได้? เคล็ดลับก็คือการตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสม ซึ่งไม่ควรตั้งให้ต่ำกว่าท้องตลาดมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ หากต้องการจะดึงดูดลูกค้า แนะนำว่าให้จัดโปรโมชันตามเทศกาลต่าง ๆ แทนจะดีกว่า

• โปรโมตอย่างมืออาชีพ

ท่ามกลางสินค้าประเภทเดียวกันที่มีอยู่มากมาย สิ่งที่จะทำให้ร้านของเราโดดเด่นกว่าคู่แข่งได้ก็คือการโปรโมตอย่างเป็นมืออาชีพ โดยแทนที่จะใช้วิธีโพสต์รูปภาพสินค้าแบบเดียวกันซ้ำ ๆ และใช้ข้อความที่ดูเหมือน ๆ กัน ให้เราหาไอเดียใหม่ ๆ ในการแต่งรูป และเขียนแคปชันให้ดูน่าสนใจ เท่านี้ร้านของเราก็จะดูแปลกใหม่ และดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าแน่นอน

สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติมด้านเทคนิคการขายสินค้า เพื่อเป็นผู้นำในตลาดการขายของแบบ Dropship สามารถเลือกเรียนคอร์สที่สนใจได้เลยที่ The iCon Academy สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาแล้วโดยตรง พร้อมช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจ
ติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำในการเลือกคอร์สที่ใช่ได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-105-6789